ตะไคร้วัดวชิรธรรมปทีป

 

 

ต้นตะไคร้วัดวชิรธรรมปทีป

 

 

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ !

 

เซิร์ฟๆ สบายๆ แบบวาไรตี้ไปแล้วในวันวาน วันนี้ขอนำเสนอ "สิ่งมหัศจรรย์จากนิวยอร์ค" ตามที่โฆษณาไว้ในท้ายบทก่อน

สิ่งมหัศจรรย์ที่จะพูดถึงในวันนี้ ก็ตามที่นำเสนอเป็นภาพไปในเบื้องต้นนั่นแหละ ถามว่านั่นอะไรนะนั่นอะไร ?

ตอบว่า ตะไคร้วัดวชิรธรรมปทีป เมืองนิวยอร์ค

กรุณาดูให้ดีนะท่านนะ นั่นตะไคร้จริงหรือว่าตะไคร้ปลอม ผู้เขียนขอยืนยันว่าเป็นตะไคร้จริงๆ เพียงแต่เป็นตะไคร้ประหลาดในโลก เพราะเอาเหง้าหรือรากชี้ฟ้า ส่วนปลาย ยอด หรือใบนั้น กลับปักลงไปในดิน ไม่ทราบว่าจะกินน้ำทางไหน ?

ตะไคร้นั้นเป็นสมุนไพรไทย มีสรรพคุณในทางแก้ท้องอืดท้องเฟ้อเรอเปรี้ยว แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ เจริญอาหาร สามารถใช้เป็นยาได้ทั้งต้น ราก ใบ สมัยโบราณมานั้นคนไทยนิยมนำตะไคร้มาตำทำน้ำพริกใส่แกง แทบทุกชนิดคู่กับกับข่าและกระเทียม แบบว่าสามสหายนี้จะขาดจากกันไม่ได้

นั้นเป็นสรรพคุณของตะไคร้ที่ผู้เขียนค้นหาและประมวลมาจากบรรดาผู้รู้ของเมืองไทย ไม่ว่าสายแพทย์ สายพยาบาล หรือสายแม่ครัว ล้วนแต่ให้คำตอบตรงกัน

แต่วันนี้มีสรรพคุณของตะไคร้ชนิดใหม่ขึ้นมาในวงการพฤกษศาสตร์ไทยเราแล้ว นั่นคือ...

 

ห้ามฝน !

 

ตลอดทั้งงานของวัดวชิรธรรมปทีป คือระหว่างวันที่ 23-28 มิถุนายน ที่ผ่านมานั้น ท่านที่ไปร่วมงานย่อมจะทราบดีว่า อากาศร้อนจัดแทบเป็นไข้ หลายท่านถึงกับเป็นลม ต้องเรียกหามดหมอมาช่วยประถมพยาบาลอย่างเร่งด่วน มีเพียงช่วงหัวค่ำของวันที่ 22 มิถุนายนเท่านั้น ที่ฝนตกลงมาเหมือนฟ้ารั่ว แต่มีที่น่าสนเท่ห์อยู่ช่วงหนึ่ง คือ เช้าวันเสาร์ ที่  26 มิถุนายน พ.ศ.2553 ซึ่งเป็นวันที่ 3 ของงาน เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมฆครึ้มดำลอยต่ำลงมาทำท่าว่าจะกลายเป็นฝน ซึ่งผู้เขียนแหงนหน้าดูก็ยังรู้ว่าไม่รอดแน่ ถามพระเพื่อนๆ ท่านก็พูดตรงกันว่า "มีพยากรณ์อากาศว่าวันนี้ฝนจะตกบริเวณนี้ สหรัฐอเมริกาทำนายอะไรไม่เคยพลาด" จากนั้นผู้เขียนก็เข้าโรงฉัน พอฉันเพลเสร็จ เดินออกโรงอาหารมา ก็พบเหตุการณ์ประหลาด คือ เกิดปรากฏการณ์ผิดธรรมชาติ บรรยากาศวัดวชิรธรรมปทีปซึ่งครึ้มฟ้าครึ้มฝนเมื่อสักครู่นั้น บัดนี้กลับแจ้งจางปาง

 

ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น ?

 

 

ท่านพระครูวิเทศพุทธิคุณ หรือพระอาจารย์สมบุญ เจ้าอาวาสวัดพระพุทธิวงศมุนี เมืองสต๊อกตัน รัฐแคลิฟอร์เนีย บอกกับผู้เขียนว่า "ท่านมหาไปดูสิ ที่หลังโบสถ์น่ะมีตะไคร้ปลูกใหม่เพียบเลย"

"ปลูกใหม่ ทำไมเหรอ ?" ผู้เขียนงง

ท่านพระครูสมบุญก็กึ่งเฉลยกึ่งอำว่า "ไม่รู้ล่ะ ไปดูก่อน แล้วจะรู้ว่าทำไมฟ้าสว่างอย่างงี้"

ทราบเช่นนั้น ผู้เขียนจึงตามหาพระมหาเกรียงไกร ขอยืมกล้องถ่ายรูป พอได้แล้วจึงรีบจ้ำอ้าวไปทางด้านหลังพระอุโบสถ ก็พบกับต้นตะไคร้พันธุ์ใหม่ดังท่านพระครูว่าไว้จริงๆ ยิงชัตเตอร์เก็บๆๆ ภาพต้นไม้ประหลาดพันธุ์ใหม่ในโลกเอาไว้หลายสิบช็อต หวังจะนำเสนอในที่ประชุมนักเล่นสมุนไพรโลก ว่ามีตะไคร้พันธุ์ใหม่เกิดขึ้นแล้ว ตั้งความหวังไว้ในใจ เผื่อจะได้รับเกียรติตั้งชื่อ "มหานรินทร์" ไว้เป็นเจ้าของตะไคร้พันธุ์ใหม่นี้กับเขาบ้าง เช่น มิสเตอร์ฮัลเล่ย์ ส่องกล้องดูดาว จนพบดาวหางดวงใหม่ ในแวดวงดาราศาสตร์ก็ตั้งชื่อให้เป็นเกียรติยศว่า ดาวหางฮัลเล่ย์ ยังเท่ห์ระเบิดอยู่จนกระทั่งวันนี้ ในวงการอื่นๆ ก็นิยมยกย่องในทำนองเดียวกัน

พอได้รูปแล้ว ก็เดินไปทางกลุ่มพระธรรมทูตที่ท่านพระครูสมบุญจับกลุ่มคุยอยู่ใต้ต้นไม้ริมกำแพง ท่านพระครูย้ำว่า "เห็นไหมๆ เชื่อหรือยัง"

ผู้เขียนก็ตั้งคำถามว่า "มันเป็นไปได้ยังไง ดูสิ เมื่อเช้าเมฆปิดวัดวชิรธรรมปทีปเหมือนฝาชีครอบหม้อแกง แต่เดี๋ยวนี้..." ว่าพลางก็เอามือปาดเหงื่อ เรียกหาน้ำมาดื่มแก้กระหาย

ท่านพระครูก็อธิบายว่า "ท่านมหาจำโหราศาสตร์ได้ไหมว่ามีกี่ระดับ"

ผู้เขียนก็บอกว่า "มีสามภาค คือ หนึ่ง-ภาคคำนวณ สอง-ภาคพยากรณ์ และสาม-ภาคพิธีกรรม"

"นั่นแหละๆ ภาคสุดท้ายนั่นแหละ" ท่านพระครูย้ำและว่า "ก็ลองคิดดูสิ ถ้าคำนวณและพยากรณ์ออกมาแม่นยำแล้ว แต่จะแก้ยังไงให้หายทุกข์ จึงต้องมีพิธีกรรมเข้ามาช่วย ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่"

ผู้เขียนฟังแล้วก็ดูเข้าที เพราะแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเชื่อถือในสิ่งเหล่านี้ ไอ้เรื่องโหราศาสตร์น่ะเชื่ออยู่ แต่เชื่อเฉพาะภาคคำนวณกับภาคพยากรณ์เท่านั้น ส่วนภาคพิธีกรรมหรือภาคแก้กรรมนั้นไม่เคยเชื่อ เพราะเชื่อว่าแก้ไม่ได้ แต่สำหรับวันนี้เห็นทีต้องเปลี่ยนความเชื่อซะแล้ว เพราะหลักฐานประจักษ์ชัดเจน แม้ว่าจะยังพิสูจน์ไม่ได้ ว่าตะไคร้วัดวชิรธรรมปทีปทำให้ฝนหยุดตกได้จริง

 

แบบนี้ละกระมังที่โบราณท่านว่า ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่

 

ก็ยืนพูดคุยกันไปเรื่อยๆ ไอ้ที่จริงเรื่องปลูกตะไคร้โดยเอารากชี้ฟ้าใช่ว่าผู้เขียนไม่เคยเห็น เช่นที่วัดธรรมคุณาราม รัฐยูท่าห์นั้น ก็เคยเห็นคนปลูกในช่วงมีงานวัด และทำให้คลาดฟ้าคลาดฝนไปทุกที เคยถามพระในวัดว่าใครเอามาปลูก ก็ได้รับคำตอบว่า "แม่ตู้โฮมเป็นเจ้าพิธี"

พอพูดกันนานไป พระมหาเกรียงไกรก็แย้มมาว่า "วัดไทยของเราก็มีครับอาจารย์"

"เหรอ" ผู้เขียนสงสัย "ใครปลูก และปลูกเมื่อไหร่"

มหาเกรียงไกรก็ตอบว่า "ก็ปลูกทุกครั้งที่มีงานนั่นแหละครับ แม่ปานเป็นคนปลูก อาจารย์อาจจะไม่ค่อยได้สังเกต"

เออแฮะ ที่วัดของตัวเองก็มี ทำเป็นเซอร์ไพรซ์ไปได้

แต่..ยังมีข้อน่าสงสัยต่อไปว่า สาเหตุอันใดจึงต้องเอาต้นตะไคร้มาปลูกทำพิธีไล่ฝน ใครเป็นคนปลูกคนแรก และทำไมจึงเลือกเอาตะไคร้ เชื่อได้อย่างไรว่าจะไล่ฝนชงัด แถมยังปลูกแก้เคล็ดโดยการเอารากชี้ฟ้าเสียอีก

นี่สิน่าสนใจ พระธรรมทูตท่านใดจะทำงานวิจัยระดับปริญญาโทหรือเอก ส่งรับปริญญาจากมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ผู้เขียนก็ไม่หวงห้าม คำถามยังลามไปถึงว่า เวลาจะขอฝนนั้นทำไมคนอีสานจึงใช้แมวแถมเป็นแมวตัวเมียเสียด้วย นี่เรื่องจริง เพราะท่านแห่เฉพาะ "นางแมว" ไม่ได้แห่นายแมวเลย จะเป็นเหตุบังเอิญที่จับนางแมวได้ในวันแห่ครั้งแรก และบังเอิญแห่แล้วฝนตกหรือไง ต่อไปจึงต้องแห่นางแมวเท่านั้น เรื่องปลูกตะไคร้นี้ก็เช่นกัน มันน่าสงสัยว่าทำไม ทำไม และทำไม ?

 

 

ใครรู้ช่วยตอบที !

 

พระมหานรินทร์ นรินฺโท
วัดไทย ลาสเวกัส รัฐเนวาด้า สหรัฐอเมริกา
10
กรกฎาคม 2553
9
:00 A.M. Pacific Time.

 

 

 
 

 
E-Mail ถึง บก.
peesang2003@hotmail.com

All Right Reserved @ 2003
 

 

alittlebuddha.com  วัดไทย ลาสเวกัส 2920 McLeod Dr. Las Vegas Nevada 89121 USA (702) 384-2264