จาก..ลาสเวกัส ถึง..นิวยอร์ค
มิถุนายน 2553

Lake
Michigan and Chicago
ในวันฟ้าหลัว
คณะพระวัดไทย
ลาสเวกัส
ออกเดินทางไปร่วมประชุมใหญ่
สมัยสามัญประจำปี ครั้งที่ 34/2553 ณ วัดวชิรธรรมปทีป เมืองเซ็นเตอร์ริช
ลองไอร์แลนด์ นิวยอร์ค ด้วยรถยนต์กันตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน รอนแรมแกมมื้อไปเรื่อยๆ
เหมือนนกขมิ้นเหลืองอ่อน ค่ำไหนก็นอนนั่น
เริ่มแรกแวะไปที่
วัดธรรมคุณาราม รัฐยูท่าห์ ได้รับการต้อนรับอย่างเป็นกันเองจากพระสงฆ์และกรรมการญาติโยม ขาออกนั้นได้กระติบข้าวเหนียว
พร้อมกับน้ำพริกปลาทูและน้ำพริกตาแดงอีก 2 กระปุกใหญ่ แถมด้วยปลาทอด เนื้อทอด
ผักและผลไม้อีก เหมือนกะจะให้กินกันเป็นอาทิตย์ปานนั้นเชียว

Niagara Fall ฝั่งแคนาดาเวลากลางคืน สวยไปอีกแบบ
พอถึงโคโลราโด้
เข้าพักที่
วัดสันติธรรม เมืองโคโลราโด้ สปริงส์
ของท่านพระอาจารย์สุวิทย์
สุจิณฺโณ
(ฉายาหลวงปู่แหวน)
ท่านพระมหาหาญ ภทฺรเมธี
ก็ต้อนรับแบบว่า
"อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะมาเยี่ยมทั้งที
ต้องเลี้ยงให้ดีให้เป็นบิ๊กบุ๊ดด่ะไปเลย"
ว่าพลางก็บังคับให้ต้องฉันเช้า
ท่านอาจารย์สุวิทย์ไม่อยู่วัด ติดกิจนิมนต์ที่เนบลาสก้า
แต่ก็ยังเป็นห่วงโทรศัพท์สั่งมหาอุบาสิกาให้ทำข้าวต้มถวายเป็นกรณีพิเศษ เสร็จแล้วห่อข้าวเหนียว
ไก่ทอด และอีกสารพัดให้อีกเต็มรถ เล่นเอาง่วงกลางทางแทบไปไม่ถึงชิคาโก้

ไนแองการ่า เวลาเช้า
วิ่งรถออกจากโคโลราโด้ตั้งแต่
7 โมงเช้า แต่เป็นเวลา 8 โมงของชิคาโก้แล้ว กว่าจะไปถึงวัดธัมมารามก็เล่นเอานาฬิกาหมุนเข็มไปตั้งอยู่ที่เที่ยงคืน
แต่พระวัดธัมมารามท่านใจดี บอกว่ามาถึงเมื่อไหร่ไม่มีปัญหา
ข้าวปลาอาหารและที่พักในวัดธัมมาราม ซึ่งได้รับการขนานนามว่า
"พระอารามหลวงในสหรัฐอเมริกา"
นั้น คงไม่ต้องบรรยาย ดูแต่ท่านอาจารย์พระมหาพยอม
กิตฺติโสภโณ
ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสวัดธัมมารามนั้น
ต้องคอยควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินอยู่เสมอ ไม่งั้นมีหวังต้องเปลี่ยนฉายาเป็น
กจฺจายโน

เห็นป้ายนี้ก็แสดงว่าถึงแมสซาจูเสตต์แล้ว
จากวัดธัมมารามรถวิ่งผ่านน้ำตกไนแองการ่าเวลาดึก
ก็เลยพักริมทางเสียคืนหนึ่ง รุ่งเช้าเข้าชมน้ำตก พบพระหลายวัดเข้าไปชมด้วย
ก็ทักทายกันพอหอมปากหอมคอ
จากนั้นจึงมุ่งหน้าไปทางตะวันออกไกล มุ่งหมายไปให้ถึงวัดนวมินทรราชูทิศ
เมืองบอสตัน เพื่อชมมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
มหาวิทยาลัยอันดับ 1 ของโลก และโรงพยาบาลเมาท์ออร์เบิร์น
สถานที่ประสูติการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Mayflower II
นำนักบวช
Pilgrims จากยุโรป
ข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก มาจนถึงฝั่งอเมริกา ณ เมืองพลีมัธ (Plymouth)
ในปี ค.ศ.1620 เป็นจุดสำคัญจุดหนึ่งในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา
ท่านอาจารย์
ดร.พระมหาไสว
ชลิตปญฺโญ
รก.เจ้าอาวาส และคณะพระธรรมทูต วัดนวมินทรราชูทิศ
ก็ต้อนรับราวกับว่าผู้เขียนเป็นเอกอัครราชทูต ตื่นเช้าเลี้ยงข้าวเลี้ยงปลา
พาไปชมก้อนหินพลีมัธและเรือเมย์ฟลาวเวอร์ ซึ่งกลุ่มพิลกริม นำมาขึ้นท่าที่เมืองพลีมัธ
เมื่อ
390
ปีก่อน คือปี ค.ศ.1620
(พ.ศ.2163)
อันเป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์อเมริกันหน้าหนึ่ง แถมด้วยนำไปเลี้ยงเพลที่ร้านบัฟเฟ่ต์
ซึ่งการันตีว่าดีที่สุดระดับ
The Best of the Town
ซึ่งก็สมจริง เพราะผู้คนแทบล้นร้าน
บอกคุณภาพอาหารว่าดีและดังสมชื่อ

PILGRIM MEMORIAL PARK
สวนสาธารณะครอบคลุมบริเวณเมืองท่าพลีมัธทั้งหมด
บ่าย 4 โมง
วันที่ 22 มิ.ย. 2553
จึงได้ฤกษ์อำลานครบอสตัน นำรถมุ่งหน้าเข้ามหานครนิวยอร์ค เจอฝนห่าใหญ่
"ยินดีต้อนรับ"
เข้าอย่างมืดฟ้ามัวดิน ต้องคลำทางไปช้าๆ ออก
Exit ก็ผิดๆ
ถูกๆ กว่าจะถึงวัดวชิรธรรมปทีปที่ลองไอร์แลนด์ได้ก็เล่นเอาร่วมเที่ยงคืน
ได้ที่นอนหลังพระประธานซึ่งกว้างใหญ่ไพศาลเพราะไม่มีใครแย่ง นอนพักได้ไม่ถึง
4 ชั่วโมง ก็มีคนมาเปิดโบสถ์เพื่อจัดสถานที่
ก็จำต้องตื่นเพื่อร่วมกิจกรรมของท่านต่อไป
นี่แหละคือกำหนดการเดินทางคร่าวๆ แม้ไม่ทุกลักทุเลก็น้องๆ
ไปอินเดียและเนปาลเลยทีเดียว

PLYMOUTH ROCK
หินสัญลักษณ์
จุดสำคัญที่นักบวชกลุ่มพิลกริมขึ้นบกที่เมืองท่าพลีมัธ

ป้จจุบันมีการสร้างอาคารครอบหินพลีมัธก้อนนั้นไว้
ขากลับเดินทางผ่านวอชิงตัน ดีซี
นมัสการหลวงตาชี
ขออาหารและที่พักเป็นเวลา 1 คืน ตื่นเช้า ฉันเช้าแล้วกราบลาเข้าทำเนียบขาว
ราวเที่ยงจึงวิ่งรถขึ้นฟรีเวย์ตัดเข้าสาย 90
ตะวันตก
ผ่านมาทางชิคาโก้ แต่ไม่พัก เพราะมุ่งหน้าจะไปทางวิสคอนซิล ผ่านมินิโซต้า และเซาท์ดาโกต้า
เพื่อแวะชม
Mount Rushmore
ศิลปกรรมการแกะสลักหน้าผาเป็นรูปหน้า 4 ประธานาธิบดี
ที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของสหรัฐอเมริกาจุดหนึ่ง ในบรรดาจุดขายสำคัญๆ เช่น
เทพีสันติภาพ นิวยอร์ค สะพานโกลเด้น เกต ซานฟรานซิสโก เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์แดม
เมืองโบเด้อร์ซิตี้
เมื่องพี่เมืองน้องของลาสเวกัส เป็นต้น
จากนั้นจึงวิ่งรถเข้ายูท่าห์
ลัดลงมาทางฟรีเวย์สาย 15 ที่เรียกว่า ไอ-ฟิฟทีน ถึงวัดไทย ลาสเวกัส
ก่อนวันประกาศอิสรภาพ 2 วัน นั่นคือการเดินทางที่ทริปยาวอีกครั้งหนึ่งของคณะพระวัดไทย
ลาสเวกัส
ต้องขอกราบขอบพระคุณและขอบคุณ
คณะพระสงฆ์ทุกวัด และคณะญาติโยม ทั้งที่เอ่ยถึงและมิได้เอ่ยถึง
ซึ่งอำนวยความสะดวก เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คณะพระสงฆ์วัดไทยลาสเวกัสเป็นอย่างดียิ่งในครั้งนี้
บอกได้คำเดียว
ซึ้งในน้ำใจ

PLYMOUTH ROCK
ปีที่ขึ้นบก
1620

PLYMOUTH MUSEUM อยู่บบนถนนตรงกันข้ามกับ PLYMOUTH
ROCK

Mayflower II

Mayflower II

Mayflower II

มหาสมุทรแอตแลนติก
ฝั่งตะวันออกสุดของสหรัฐอเมริกา

ดูสวยงามและเงียบสงบ
เหมาะแก่การตั้งถิ่นฐานเป็นอย่างยิ่ง

ผู้เขียนทำพิธีเหยียบน้ำในมหาสมุทรแอตแลนติก
เพื่อความศักดิ์สิทธิ์จึงต้องถอดรองเท้าลงไปให้ได้บรรยากาศสมจริง

Harvard University
มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของโลก

ประตูนี้มีนักศึกษานักวิชาการระดับโลกเดินผ่านกันนับล้านคน

มุมด้านซ้ายมือ
จะมีป้ายปูนติดอยู่


ป้ายมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

มุมด้านขวามือ
มีป้ายปูนติดอยู่อีกแห่งหนึ่ง


ข้อความบนป้ายทางขวามือของทางเข้า

ประตูด้านข้าง

บรรยากาศภายในมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

ไม่หรูหรา แต่ว่าสบายๆ

แต่มีคนกระซิบว่า
เห็นเรียบง่ายอย่างนี้ก็เถอะ ถ้าหัวไม่เกรดเอพลัส และเงินไม่ถึงระดับร้อยล้าน
ก็อย่าคิดหวังเข้าไปนั่งเรียนในสนามหญ้ามหาวิทยาลัยแห่งนี้เลย
วิชาการทุกอย่างในสมัยนี้ก็เหมือนสินค้า ถ้าไม่ซื้อก็ไม่ได้
ยิ่งซื้อมากก็ยิ่งได้มาก ของถูกของฟรีไม่มีในโลก
ยกเว้นพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ทรงแนะนำให้ใช้คู่มือการศึกษาเพียง 2 สิ่ง
คือ กายกับใจ เท่านั้น ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมอื่นใดทั้งสิ้น
รับรองว่าได้ผลร้อยเปอร์เซ็นต์ แถมจบแล้วได้รับปริญญาแห่งชีวิต สูงส่งกว่า
Ph.D.
ด้วยซ้ำ

ทางเดินแสนเรียบง่าย
ทางเส้นนี้ที่ผลิตบัณฑิตระดับโลกมาแล้วนับไม่ถ้วน

จอห์น ฮาวาร์ด
ผู้บริจาคหนังสือ 400 เล่มให้แก่มหาวิทยาลัย
และได้รับเกียรติตั้งชื่อมหาวิทยาลัยในนามของ ฮาวาร์ด ยูนิเวอร์ซิตี้

จากหนังสือ 400 เล่ม เมื่อ
400 ปีก่อน บัดนี้ ฮาร์วาร์ดยูนิเวอร์ซิตี้
มีห้องสมุดมีหนังสือมากที่สุดในโลก ประมาณว่าถึง 16 ล้านเล่ม
!

ห้องสมุดมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

ปัจจุบัน ฮาวาร์ดกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของแมสซาจูเสตต์ไปแล้ว

ไปแมสซาจูเสตต์ (บอสตัน)
แล้วไม่ไปฮาวาร์ด
ก็เท่ากับ
ไปนิวยอร์คแล้วไม่ไปเยี่ยมเทพีสันติภาพ
ไปซานฟรานซิสโกแล้วไม่ไปดูสะพานโกลเด้นเกต
ไปวอชิงตัน ดีซี
แล้วไม่ไปเห็นทำเนียบขาว
และ ไปเชียงใหม่แล้ว
ไม่ได้กินข้าวซอย ไม่ขึ้นดอยสุเทพ
ทั้งหมดนี้ท่านบอกว่า ไป
แต่..ไม่ถึง

ถนนหน้ามหาวิทยาลัยฮาวาร์ด

Washington D.C. The Capital of the World

กรุงวอชิงตัน ดีซี
เมืองหลวงที่มีแต่ป่ากับป่าไม่น่าเชื่อ

ป่าคือปอด ปอดคือป่า
ไร้ป่าก็ไร้ปอด เผาป่าก็เผาปอด เหมือนการสูบบุหรี่ อันตราย
เป็นสาเหตุให้เกิดโรคมะเร็งปอดของคนทั้งประเทศ เกี่ยวกันไหมเนี่ย

เห็น D.C.
แล้วนึกถึง BKK
ไม่ใช่คิดว่าของเขาดีกว่าของเรา
แต่อย่าเหมาว่าของเราดีกว่าของเขา
ถ้า..เรายังไม่มาเห็น เท่านั้นเอง

Mouth
Rushmore
มุมมองของพระมหานรินทร์วันนี้ ทักทายท่านผู้อ่านแบบสบายๆ แค่นี้ก่อน
ไว้ตอนต่อไปจะนำเสนอสิ่งมหัศจรรย์จากนิวยอร์ค
|