เรื่องการจัดระเบียบรู้สึกว่าจะดังเอามากๆ ก็ในสมัย นายปุระชัย
เปี่ยมสมบูรณ์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ซึ่งท่านใช้ความเด็ดขาด สามารถสะกดพวกนอกรีตนอกรอยกลับเข้ารีตเข้ารอยได้มาก
แล้วคำนี้ก็ถูกนำไปใช้เป็นสำนวนไทยยุคใหม่ ไม่ว่าอะไรถ้ามีปัญหาก็จะใช้คำว่า
"จัดระเบียบ"
เข้ามาช่วย แม้แต่ในทางวัดวาอารามเมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาก็ต้อง
"จัดระเบียบ"
แต่ข่าวมีนี้ที่น่าสนใจมาก เพราะท่านว่าจะจัดระเบียบให้แก่
"เปรต"
เปรตนั้นเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งในบรรดาภพภูมิลงไป ได้แก่
สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกาย และนรก นรกที่ลึกสุดนั้นท่านว่าคืออเวจี
มีพระติดนรกขุมนี้อยู่หลายรูป ดังที่สุดก็ได้แก่พระเทวทัต
ติดมาสองพันกว่าปีแล้ว ยังไม่มีการอภัยโทษ ทีนี้ก็มาถึงเรื่องจัดระเบียบเปรตของวัดป่าหลักร้อยกันต่อไป
ข่าวจากหนังสือพิมพ์
คม ชัด ลึก วันที่ 6
สิงหาคม 2546 รายงานว่า "ชาวบ้านหลักร้อย โคราช เสนอจัดระเบียบเปรต
เผยวัดมีรายได้จากรูปปั้นเปรตที่มุ่งสอนคนกว่าล้าน
แต่ไม่เน้นการให้การศึกษาจริง พ่อค้าหน้าวัดแนะลดบันเทิงเรียกเงิน
แต่มุ่งสั่งสอนตามเจตนาวัดมากขึ้น
ข้อเสนอ
"จัดระเบียบเปรต"
รายนี้ เปิดเผยโดยนายสำราญ ดำมะมานอก ผู้ใหญ่บ้านบ้านหลักร้อย ต.โนนไทย
อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา
ที่ต้องการให้การจัดการเกี่ยวกับการทำบุญของวัดป่าหลักร้อย ใน ต.โนนไทย
ให้มีระเบียบมากขึ้น
สำหรับการต้องการจัดระเบียบนั้น
เนื่องจากเมื่อวัดป่าหลักร้อยได้ก่อสร้างเป็นสำนักสงฆ์ขึ้นเมื่อปี 2520
ซึ่งถือเป็นวัดแห่งแรกของบ้านหลักร้อย และได้รับการอนุญาตให้เป็นวัดในปี 2527
ทำให้เจ้าอาวาสเห็นพ้องกับชาวบ้านว่า
เมื่อเป็นวัดก็ควรจะช่วยให้มีการสั่งสอนและอบรมชาวบ้าน
เจ้าอาวาสจึงวานให้ชาวบ้านในหมู่บ้าน มาช่วยกันก่อสร้างรูปปั้นเปรต
เมื่อทุกฝ่ายเห็นตรงกัน
วัดป่าหลักร้อยจึงได้สร้างรูปปั้นจำพวกเปรตขึ้นมา
เพื่อสอนเกี่ยวกับผลจากการทำบาป โดยมีจุดประสงค์เพื่อสะท้อนภาพให้เห็นว่า
การทำบาปได้รับผลตอบแทนอย่างไร "หลังสร้างเปรตขึ้นมา
ทำให้มีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลต่างๆ
เดินทางมาเที่ยวที่วัดมากเป็นเรือนแสน
ดังนั้นวัดจึงได้ก่อสร้างรูปปั้นเปรตขึ้นมา
เพื่อเป็นการศึกษาเรียนรู้เรื่องบาปบุญคุณโทษว่าเป็นเช่นไร
ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่ก็เห็นด้วยกับการที่ทางวัดได้สร้างรูปปั้นเปรตแบบต่างๆ
ขึ้นมา เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับชุมชนเป็นอย่างดี" นายสำราญ กล่าว
อย่างไรก็ตาม
แม้จะทำรายได้ดีแต่ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงวัดหรือชาวบ้านหลักร้อย ยังมองว่า
ทุกวันนี้การดำเนินการให้ความรู้เรื่องนี้ยังขาดระเบียบ
แม้จะสร้างรายได้ให้กับวัดและทำให้ชาวบ้านมีรายได้
เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามา
จึงต้องการให้มีการแก้ปัญหาก่อนที่จะสายเกินไป
นายเอ๋
เจ้าของร้านขายของชำหน้าวัดป่าหลักร้อย เปิดเผยว่า
แม้วัดจะมีรายได้มาจากการจัดสร้างรูปปั้นเปรตและนรกขึ้นมา แต่ที่ผ่านมา
ต้องยอมรับว่า เป็นการสร้างที่มุ่งรายได้มากกว่าการสั่งสอน
เพราะแม้ตัวเองจะเชื่อบ้าง แต่ก็เชื่อเพราะทำให้เกิดการศึกษาเกี่ยวกับศาสนา
แต่ยังไม่เห็นว่า การทำบาปจะเป็นไปตามที่รูปปั้นสั่งสอนหรือไม่
เจ้าของร้านขายของชำรายนี้ บอกว่า
สิ่งที่ต้องการให้วัดหรือผู้เกี่ยวข้องปรับปรุงคือ
การจัดระบบให้เป็นสัดเป็นส่วนที่ชัดเจน
เพื่อให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและได้ศึกษาที่ชัดเจนกว่านี้
เพราะปัจจุบันวัดมีกล่องใส่เงินรอรับเงินบริจาคจากผู้ใจบุญอยู่ตรงหน้ารูปปั้น
มากกว่ามุ่งให้เกิดการศึกษาที่ชัดเจน
“เวลานักท่องเที่ยวหยอดเงินลงในกล่อง ตัวหุ่นจะขยับได้
ทำให้เกิดความสนุกมากกว่าการศึกษา
คนที่หยอดเหรียญส่วนใหญ่เห็นรูปเปรตตัวไหนชอบใจก็จะหยอดเฉพาะตัวนั้น
ซึ่งรูปแบบนี้นักท่องเที่ยวสนใจจนแต่ละเดือนวัดจะมีรายได้จากการหยอดเหรียญไม่ต่ำกว่าล้านบาท
จึงน่าจะปรับปรุงให้เป็นสัดเป็นส่วน
เพื่อให้คนศึกษาในรายละเอียดมากกว่าที่จะมีเที่ยวเพื่อความสนุกสนาน” นายเอ๋กล่าวทิ้งท้าย
วัดป่าหลักร้อยที่ว่านี้เป็นจุดขายที่น่าสนใจมาก
จนได้รับการยกระดับเป็นที่ท่องเที่ยวประจำจังหวัดโคราช
มีอะไรแปลกหูแปลกตาจากวัดทั่วไปให้ชม โดยเฉพาะก็คือเปรต !
เพราะวัดนี้มีเปรตอยู่เต็มวัด เริ่มแรกนั้นท่านว่า
พระครูสิริภัทรภรณ์
แต่เดิมเป็นเพียงพระธรรมดา แต่ความคิดไม่ธรรมดา
เห็นว่าวัดนอกจากจะเป็นที่พำนักของพระภิกษุสามเณรแล้ว
ยังเป็นที่ศึกษาและทัศนาจรของญาติโยมอีกด้วย
ด้วยเหตุนั้นท่านจึงคิดเอาอะไรแปลกๆ มาให้คนชม
แต่จะให้คนดูคนมันก็ยังไม่ตื่นใจ จึงใช้ไอเดียใหม่
"โชว์เปรต"
ปรากฏว่าวัดป่าหลักร้อยซึ่งมีเปรตเป็นร้อยๆ นั้นดังเป็นพลุ
มีคนไปเที่ยวมากมายและกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งประจำจังหวัดโคราชบ้านเอ็ง
จากเปรตในจินตนาการ เมื่อสร้างมาแล้ว
นักท่องเที่ยวที่ไปถึงวัดป่าหลักร้อยก็ทยอยกันบริจารเงินมากบ้างน้อยบ้างตามฐานะ
วัดป่าหลักร้อยก็เลื่อนฐานะจากวัดจนๆ มาเป็นวัดมหาเศรษฐี
มีคณะกรรมการจัดการผลประโยชน์อย่างเป็นล่ำเป็นสัน ไม่ต่างจากวัดดังๆ
อื่นๆ ในเมืองไทย เช่น วัดโสธร วัดพระปฐมเจดีย์ วัดไร่ขิง
วัดพระพุทธชินราช วัดไตรมิตรวิทยาราม วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดช้างไห้
วัดเขาตะเครา วัดพระพุทธบาทสระบุรี เป็นต้น
แต่คนเราน่ะมีกิเลสตัณหา
ที่พระท่านว่าตายไปเป็นเปรตนั้นก็เพราะกิเลสจำพวกโลภมากลาภหายนี่แหละ
คนที่ยุ่งกับเงินทองของวัดเช่น คณะกรรมการการเงินของวัดก็เช่นเดียวกัน
เห็นเงินก็ตาโต ดังภาษิตเมืองเหนือว่า
"เห็นเงินหน้าดำ
เห็นคำหน้าเส้า"
คือหน้ามืดนั่นแหละ วัดป่าหลักร้อยก็เจอปัญหา
"หน้ามืด"
เช่นเดียวกัน นอกจากจะมีการฉ้อฉลเงินวัดแล้ว
ยังมีการใช้อิทธิพลส่วนตัวในการทำธุรกิจในวัดประเภทต่างๆ
ที่สำคัญก็คือ มุ่งแต่หาเงินเข้าวัดเพียงอย่างเดียว
โดยไม่เหลียวแลกิจกรรมอันเป็นสาระอื่นใด จึงเป็นข่าวใหญ่ให้ติดตามว่า
วัดดังแห่งนี้จะสามารถจัดระเบียบเปรตได้จริงหรือไม่
เพราะเปรตพวกนี้มีจิตวิญญาณ เป็นเปรตในร่างคนมีอิทธิพลภายในวัด
เผลอ ๆ
จะมีพระเปรตกับเขาด้วย
ข้อมูลจำเพาะ
ชื่อวัด :
วัดป่าหลักร้อย
สถานที่ตั้ง : ตำบลโนนไทย อำเภอโนนไทย
จังหวัดนครราชสีมา 30220
โทรศัพท์ (044) 381-076
เนื้อที่บริเวณวัด : 48 ไร่
ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมาไปประมาณ 20 กิโลเมตร
เจ้าอาวาส :
พระครูสิริภัทราภรณ์ พระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ฝ่ายวิปัสสนาธุระ (พัดขาว)
ตำแหน่งเจ้าอาวาส และเจ้าคณะตำบลโนนไทย
|