อาฟเตอร์ช็อก !
มือขวาสมเด็จชินลาสิกขา
ปัญหาใหญ่ในวัดราชบพิธ
เจ้าคุณประกอบ มือขวาสมเด็จชิน
เจ้าคุณประกอบ ศิษย์สมเด็จหลวงปู่วิริยังค์
เจ้าคุณประกอบ กับศิษย์ดารา
ก็ต้องถือว่าดังระดับ "ลานเทสะเทือน" สำหรับการ "ลาสิกขา" ของเจ้าคุณประกอบ-พระราชมงคลดิลก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ เจ้าคณะเขตพระโขนง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และมีดีกรีการศึกษาระดับ "ด๊อกเตอร์" โกอินเตอร์ได้สบายๆ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ หรือสมเด็จชิน จนได้รับฉายา "มือขวาสมเด็จชิน" รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดี ก็มีสิทธิ์ไปไกลถึง "สมเด็จ" ในอนาคต เหมือนสมเด็จชินเจ้านาย
แต่กลับกลายเป็นว่า "ลาสึกเงียบ" ไม่บอกไม่ลา ไม่มีพิธีรีตรองใดๆ ในวัดราชบพิธ ไม่มีใครไปเป็นสักขีพยานให้กำลังใจ แถมยังไปสึกเสียไกลที่ "วัดเสนาสนาราม" กรุงศรีอยุธยา ซึ่งแรกนั้นข่าวออกมาว่า "สึกที่พิษณุโลก" วันนี้เปลี่ยนเป็นที่อยุธยาไปเสียแล้ว
ลำพัง "สถานที่สึก" ก็ยังลับลวงพราง อย่างอื่นคงไม่ต้องพูดถึง แต่ยังไงก็เลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องพูด เพราะคนใหญ่คนโตระดับ "มือขวาสมเด็จชิน" แถมยังเป็น "ศิษย์ก้นกุฎิ" สมเด็จพระสังฆราช เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ สึกเงียบแบบนี้ ไม่พูดถึงไม่ได้หรอก นักข่าวตามตัวแจเชียว เจ้าคุณแป๊ะสึกเงียบแต่ดัง ฉันใด เจ้าคุณประกอบสึกเงียบก็ไม่สงบ ฉันนั้น
ถามว่า สาเหตุแห่งการสึกของเจ้าคุณประกอบนั้นคืออะไร ?
คำตอบก็คือว่า น่าจะมาจากปัญหาหลัก คือ เรื่องงานและเรื่องเงิน
เรื่องงานนั้น มี 2 งานหลัก คือ งานในวัดราชบพิธ หรือสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งจะต้องสนองงานสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งงานส่วนนี้จะอยู่ในการควบคุมดูแลของ "สมเด็จชิน" ถ้างานส่วนนี้มีปัญหา สมเด็จชินต้องรับผิดชอบ
งานหลักอีกงานหนึ่งก็คือ งานในมหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งสมเด็จพระสังฆราชทรงดำรงตำแหน่งนายกสภา และสมเด็จชินก็เป็น "อุปนายก" แถมเจ้าคุณสมคิดก็เป็นอธิการบดี งานด้านนี้ ก็ตกอยู่ในความดูแลของ "สมเด็จชิน" อีกเช่นกัน และเมื่อเจ้าคุณประกอบ เป็นที่ไว้วางใจของสมเด็จชิน ก็คงจะได้เข้าไปช่วยงานอย่างเต็มตัว
มมร. ปีนี้ มีปัญหาหลายเรื่อง ที่การประเมินคุณภาพที่ไม่ผ่าน ทั้งปัญหา "เงินทอน" ที่ปูดออกมาจากคนภายใน ทำให้ต้องหาผู้รับผิดชอบแทนเจ้านายคือสมเด็จชิน ไม่งั้นจะลามไปถึงสมเด็จพระสังฆราช นี่ก็อาจจะเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เจ้าคุณประกอบต้องลี้หนีหน้าไปสึกไกลถึงอยุธยาเมืองเก่า
แน่นอนว่า ปัญหาแต่ละเรื่องที่ประดังเข้ามาที่สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ซึ่งก็คือ สมเด็จชิน นั้น ต้องเป็นปัญหาใหญ่ระดับ "คอขาดบาดตาย" ซึ่งวงการพระเรียกว่า "ข้อหาปาราชิก" ไม่งั้นคงไม่ถึงกับจะให้เจ้าคุณราชต้อง "ลาสิกขา" เพื่อตัดไฟเสียแต่ต้นลม การแก้ปัญหาเช่นนี้ได้ผลชงัด แต่ก็ไม่สามารถจะห้ามความเสียหายด้านอื่นได้ เพราะการลาสิกขาของพระผู้ใหญ่ในวัดสังฆราช ต้องสามารถตอบคำถามสังคมพุทธไทยให้ได้ว่า สึกทำไม และทำไมไม่สึกอย่างถูกต้องตามประเพณีไทย หลบลี้หนีหน้าไปเช่นนี้ มันเสียศักดิ์ศรีวัดอันดับหนึ่งของประเทศไทยไปหมด
เอ้า ! ถามใครไม่ได้ ก็ต้องถาม "สมเด็จชิน" นั่นแหละครับ ถูกเนื้อถูกตัวที่สุด เพราะมือขวาสึกก็เท่ากับตัดแขนทิ้ง ก่อนจะตัดแขนก็ต้อง "ตัดใจ" ใช้หลักการใหญ่ที่ว่า "เสียสละอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต" การเสียสละเจ้าคุณประกอบออกไปจากวัด จะช่วยเซฟชีวิตใครไว้ได้บ้าง สมเด็จชินผู้รอดชีวิตก็คงจะรู้ดีที่สุด บอกแล้วไงว่าอย่าเอาอำนาจไว้เยอะ เพราะอำนาจเยอะผลประโยชน์ก็เยอะ พอผลประโยชน์เยอะ ปัญหาก็จะเยอะ สุดท้ายก็ทำลายพระลงไปเห็นๆ นะสมเด็จชินนะ ลาออกเสียบ้างเถอะครับ กับตำแหน่งล้นวัดน่ะ
อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน : 16 พฤศจิกายน 2563
|
ดร.พระราชมงคลดิลก วัดราชบพิธ ลาสิกขา
ปัญหาอะไรก็ไม่รู้
พระราชมงคลดิลก วัดราชบพิธ
Inside thai monks ข่าววงใน (ในวงธรรมยุต) รายงานด่วนมายัง อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม ว่า เมื่อเวลาเช้าตรู่ของวันนี้ (16 พ.ย. 63) ดร.พระราชมงคลดิลก หรือเจ้าคุณประกอบ เจ้าคณะเขตพระโขนง รักษาการเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม พระอารามอันดับหนึ่งของประเทศไทย ได้ลาสิกขาอย่างเงียบๆ ที่จังหวัดพิษณุโลกบ้านเกิด สาเหตุยังเปิดเผยไม่ได้ หมายความว่า ยังไม่มีใครรู้แม้กระทั่งจิ้งจก
จริงอยู่ ถึงโบราณไทยๆ จะมีคำนิยามไว้ว่า ฝนจะตก ฟ้าจะร้อง คนมีท้องจะเกิดลูก และ.. พระจะสึก เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้ ดังนี้ก็จริง แต่ถึงกระนั้นก็ต้องมีเหตุมีผล ยกตัวอย่างกรณี พระมหาศาสนมุนี หรือเจ้าคุณแป๊ะ วัดปากน้ำ ลาสิกขาอย่างเงียบๆ แม้กระทั่งสมเด็จวัดปากน้ำ ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งสูงสุด เป็นถึง "ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช" ก็ยังไม่ทราบข่าว เป็นข่าวอื้อฉาวทำนองว่า แม้กระทั่งพระเจ้าคุณผู้ใกล้ชิดในผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ก็ยังไม่มั่นคงในพระธรรมวินัย แถมยังสึกแบบไร้พิธีรีตรอง ทำนอง "ไปไม่ลา มาไม่ไหว้" มันไม่เหมาะไม่ควร เพราะจะเป็นตัวอย่างให้พระเณรไทยทั่วประเทศ ว่าพระผู้ใหญ่ในวัดสังฆราชเขาสึกกันแบบนี้หรือ
แต่ก็เอาเถิด เรื่องพระแป๊ะวัดปากน้ำนั้น เป็นพระมหานิกาย ซึ่งไม่เคร่งครัดเท่ากับธรรมยุต แถมแกบวชเมื่อแก่แล้ว คือบวชแก้บน อยู่มานานจนได้เป็นเจ้าคุณก็ถือว่าบุญผ้าเหลืองแรง จากคนโนเนม กลายเป็นแบรนด์เนม ถือว่าเท่ห์ทั่วไทย ใครไม่รู้จัก "ท่านแป๊ะ" ตอนโด่งดังนั้น ยืมชื่อขอกินกาแฟได้ทั่วไทยเชียว บอกแค่ว่า "ผมเพื่อนแป๊ะ" พวกก็รีบอาสาว่าอยากได้อะไร
แต่..แต่วันนี้ มีข่าวทำนองเดียวกันกับ "วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม" ของสมเด็จพระสังฆราช พระองค์ปัจจุบัน ว่า ดร.พระราชมงคลดิลก (ประกอบ สุภากโร) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชบพิธ เจ้าคณะเขตพระโขนง และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ อันถือว่าเป็นทั้งพระผู้ใหญ่ มีการศึกษาสูง แถมยังอยู่วัดเดียวกับสมเด็จพระสังฆราช ได้ลาสิกขาอย่างเงียบๆ ที่พิษณุโลกบ้านเกิด !!
จึงเกิดคำถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าคุณประกอบ พระหนุ่มมาแรงแห่งวัดราชบพิธ อายุพรรษาแค่ 58 ปี ดีกรีด๊อกเตอร์ และมีตำแหน่งมากมาย แถมยังเป็นศิษย์ใกล้ชิดในสมเด็จพระสังฆราช (อัมพรมหาเถร) พระองค์ปัจจุบัน ท่านน้อยอกน้อยใจอะไร จึงได้ตัดสินใจ "ลาสิกขาลับหลัง" คือกลับไปสึกที่บ้านเกิด ไม่สึกที่วัดราชบพิธ ก็ทำนองเดียวกับ "ท่านแป๊ะ" ไม่สึกที่วัดปากน้ำ นั่นแหละ ตำราเดียวกัน
พระแป๊ะไม่สึกวัดปากน้ำ ไม่บอกสมเด็จวัดปากน้ำ ก็เป็นเรื่องไม่เหมาะไม่ควรยิ่งแล้ว แต่สำหรับเจ้าคุณประกอบ ไม่สึกวัดราชบพิธ ไม่กราบลาสมเด็จพระสังฆราชอย่างเป็นทางการ ก็คงไม่ต้องบอกว่าเหมาะหรือไม่ หรือว่ามีสาเหตุอันใดให้ต้องตัดสินใจไปเช่นนั้น
การลาสิกขาของเจ้าคุณประกอบในครั้งนี้ ก็ต้องใช้สำนวนว่า "สะเทือนสังฆราช" วัดราชบพิธ มีตำแหน่งมากมายล้นวัด แต่บุคคลากรมีจำกัด น่าจะมีคนเข้าไปช่วยงานเพิ่ม แต่กลับมีคน "ลาออก" มิใช่แค่สมองไหล แต่นี่คือ..เลือดไหล แถมไหลครั้งใหญ่ ให้พระเณรทั่วไทยสงสัยว่า เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าคุณประกอบ จึงลาสิกขา ไม่บอกลาสมเด็จพระสังฆราช
แน่นอนว่า ต้องมีปัญหา ถ้าไม่มีคงไม่ลาสิกขา แต่เป็นปัญหาอะไรก็ยังไม่ทราบ ทราบแต่เพียงคร่าวๆ ว่า ถ้าไม่ใช่ปัญหาส่วนตัว เช่น เบื่อผ้าเหลือง หรือเบื่อหน้าคนบางคนจนมองหน้ากันไม่ติด อยู่ด้วยกันไม่ได้ เป็นต้น ก็ต้องเป็น "ปัญหาส่วนรวม" คือปัญหาเรื่องวัด เรื่องงาน และ..เรื่องเงิน
คำถามจึงพุ่งไปยังสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดราชบพิธ ภายใต้การบังคับบัญชาของ "สมเด็จชิน-สมเด็จพระมหาวีรวงศ์" ผู้ยิ่งใหญ่ ว่าต้องให้คำตอบออกมา ให้แก่สังคมพุทธไทยได้หายสงสัย ว่าทำไม พระผู้ใหญ่ในวัดราชบพิธ ถึงอยู่ไม่ได้
งานนี้ ถึงจะอ้างว่าสมเด็จพระสังฆราชไม่ทรงทราบ แต่เจ้าคุณชินต้องรู้ และรู้ลึกรู้จริง แถมเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังให้เจ้าคุณประกอบไปสึกที่พิษณุโลกด้วย เอ้าจริงๆ นะ เรื่องที่คนไม่รู้น่ะในโลกนี้ไม่มีหรอก มีแต่รู้แล้วจะพูดหรือไม่เท่านั้นเอง จริงไหมครับ ท่านสมเด็จชิน
อะลิตเติ้ลบุ๊ดด่ะ ดอทคอม รายงาน : 16 พฤศจิกายน 2563 |
WWW.ALITTLEBUDDHA.COM WAT THAI LAS VEGAS 2920 MCLEOD DRIVE LAS VEGAS NEVADA 89121 U.S.A. PHONE. 702-384-2264 |