พงศ์พร ยึดอำนาจ มส.
ส่งคำพิพากษา "เจ้าคุณเอื้อน" ผ่านณรงค์อ่านให้ฟัง
ฟังแล้วอึ้งกิมกี่ เถรสมาคม ไม่มีความเห็นใดๆ
กลายเป็นความชอบธรรมของพงศ์พรทันที
เพราะนี่คือ "ใบเสร็จ" เสร็จแน่ๆ เจ้าคุณเอื้อน
ไม่รีบห่มขาววันนี้ก็อาจจะมีข้อหาตามมา
จะหาว่าพงศ์พรไม่เตือน
สองรุมหนึ่ง
อา..ก็ต้องเรียกว่า "เรียบร้อยโรงเรียนพงศ์พร" ทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทั้งมหาเถรสมาคม ถูกพงศ์พรยึดเรียบ เริ่มตั้งแต่
1. สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ นำเอาเอกสารรายงานคดีอดีตพระพรหมดิลก หรือเจ้าคุณเอื้อน วัดสามพระยา เข้ารายงานต่อมหาเถรสมาคม เมื่อวันที่ 30 กันยายน ที่ผ่านมา ปรากฏว่า คำรายงานนั้น "เหมือนกัน" กับคำแถลงข่าวผ่านสื่อ ของนายพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ อดีต ผอ.พศ. และปัจจุบันเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายกิจการพระพุทธศาสนา เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยน แม้แต่คำว่า "อนึ่ง" ก็ยังลอกกันตรงเด๊ะ แล้วอย่างนี้ จะมิให้เรียกว่า "สำนักพุทธถูกพงศ์พรยึด" ได้ยังไง ทั้งพุทธมณฑลไม่มีคนรู้ภาษาแล้วหรือไร ถึงได้เอาคำแถลงข่าวของพงศ์พร ไปอ่านรายงานให้ที่ประชุมมหาเถรสมาคมฟัง "ทั้งดุ้น" เผยข้อสงสัยในอดีตเสียหมดว่า "ณรงค์ ทรงอารมณ์ ผอ.พศ. คนปัจจุบัน เป็นร่างทรงของใคร" มิใช่แค่นามสกุล "ทรงอารมณ์" เท่านั้น แต่วันนี้เห็นแล้วว่า "ทรงทุกอย่าง" ของพงศ์พร แม้แต่..อารมณ์ ถึงกับนำเอาถ้อยคำสำนวนของพงศ์พรไปเป็นรายงานให้แก่มหาเถรสมาคมดังที่เห็น ณรงค์วันนี้ตกอยู่ในสภาพ "กินน้ำใต้ศอก" ของพงศ์พรอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ เป็นนักการศาสนานัมเบอร์วันทั้งทีก็น่าจะเป็นให้มันสมยศสมอย่างหน่อย แต่ทำแบบนี้มันไร้เกียรติยศและศักดิ์ศรี นะ ณรงค์ ทำงานไม่เป็นก็ลาออกซะ อย่าอยู่ให้อายชาวบ้านเขาเลย
2. มหาเถรสมาคม กลายเป็น "สภาตรายาง" ให้แก่พงศ์พรอย่างสมบูรณ์แบบ ภายหลังจากรับฟังรายงานของ "พงศ์พร" ที่ณรงค์นำมาอ่านให้ฟัง ก็ฟังไปหลับไป ไม่มีความคิด ไม่มีความเห็น ไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ไม่ว่าพงศ์พรจะเขียนอะไรๆ ให้อ่าน ก็เชื่อทุกถ้อยคำ เลยถูกพงศ์พรนำเอา "ความเฉยเมย" ของมหาเถร ไปเป็นความชอบธรรมให้แก่ตนเอง จะได้นำเอา "ความไม่เห็น" ของมหาเถรสมาคมครั้งนี้ ไปตีเจ้าคุณเอื้อนต่อไป
ทั้งสองกรณีนี้ คือความตกต่ำย่ำแย่ที่สุด ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและมหาเถรสมาคม ในรอบ 60 ปี ที่เคยปรากฏในประวัติศาสตร์ เหมือนสมัยจอมพลผ้าขาวม้าแดงครองเมือง จับหลวงพ่ออาจเข้าคุกเข้าตะราง ปั้นข้อหาเท็จสารพัด พระสงฆ์ด้วยกันน่าจะช่วยเหลือ กลับช่วยซ้ำ ปล้นเอาตำแหน่งของพระพิมลธรรมมาครองกันเกร่อ ไม่อายฟ้าอายดิน ขนาดศาลทหารยังพิพากษาว่า "ผู้รุมทำร้ายพระพิมลธรรมมีมากเกินไป ทั้งพระทั้งฆราวาส จึงไม่อาจเอาผิดได้ ขอให้จำเลยอโหสิกรรมให้ ถือเสียว่าเป็นกรรมเก่า" ตอนนั้นน่าจะยุบมหาเถรสมาคมทั้งไปได้แล้ว เพราะมิได้ทำงานเพื่อพิทักษ์รักษาพระธรรมวินัยและพระสงฆ์สามเณร แต่กลับทำลายพระทำวินัยและปล้นชิงพระเณรเสียเอง
ประชุมมหาเถรสมาคม วันที่ 30 กันยายน 2563
สมเด็จพระวันรัต วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานการประชุม เป็นนัดประวัติศาสตร์ เพราะมีวาระการประชุมเรื่องเจ้าคุณเอื้อนด้วย
ณรงค์ ทรงอารมณ์
อ่านเอกสารของ พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ให้ มส.ฟัง
มหาเถรสมาคม ฟังแล้ว ก็โนมคอมเมนต์
เห็นตามพงศ์พรทุกประการ
ก็ชิบหายซีคะ พระศาสนาจะอยู่อย่างไร ถ้าให้ฆราวาสชี้นำ
มาวันนี้ก็เอาอีก มหาเถรสมาคม น่าจะมีความคิดเห็นมั่ง ฟังณรงค์อ่าน "ขี้ปาก" ของพงศ์พรทุกบททุกตอนแล้ว ก็น่าจะมีถ้อยคำสำนวนที่ "ดีกว่า" หรือความเห็น "เพิ่มเติม" สิ่งใด ให้เป็นที่รับทราบว่า บรรดากรรมการมหาเถรสมาคม ยังมีผู้รู้อยู่บ้าง แต่นี่ไม่มีเลย ไม่มีข่าวเลยซักแอะว่า บรรดากรรมการมหาเถรสมาคม "ชุดพระราชทาน" เหล่านี้ จะได้มีสติพอที่จะ "ตั้งข้อสังเกต" ในคดีประวัติศาสตร์นี้กันอย่างไร มิใช่อะไรๆ ก็เอาพงศ์พรว่าหมด เออออห่อหมกไปตามยถากรรม น่าจะขอเวลา "ตั้งกรรมการศึกษา" ก็ไม่ทำ จึงน่าสงสัยว่า กรรมการ มส. กลัวอะไร จึงได้ปล่อยไก่เป็นเล้าดังที่เห็น ถ้าไม่พร้อมแล้วมาเป็นกรรมการมหาเถรสมาคมทำไมไม่ทราบ
ถ้าเพียงแค่ "ไปนั่งฟัง" ก็อวดโอ่ว่าเป็นการประชุมมหาเถรสมาคมแล้ว อีแบบนี้ไม่ต้องมีมหาเถรสมาคมก็ได้ เพราะมีหรือไม่มีก็ไม่ต่างกัน ถ้าเช่นนั้นก็เชิญพงศ์พรมาเป็น "ประธานมหาเถรสมาคม" เสียสิ จะได้สมยศสมอย่าง อยากประจบสอพลอต่อฆราวาส ก็ทำได้เต็มที่ อยากเห็นเหมือนกันว่ากรรมการ มส. รูปไหน จะกราบไหว้พงศ์พรก่อน
ความสะเพร่าของมหาเถรสมาคมครั้งนี้ ย่อมจะสร้างความชอบธรรมให้แก่เจ้าคุณเอื้อน แบบว่าถ้าห่มผ้าเหลืองไม่ได้ ก็จะหันไปนุ่งห่มสีอื่น เช่น สีขาว แทน แต่ผู้ที่เคารพนับถือศรัทธาในตัวเจ้าคุณเอื้อนนั้น จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น เพราะเขาเชื่อว่า "ถูกรัฐบาลรังแก" และ "มหาเถรสมาคมไม่เหลียวแล"
ดังนั้น ต่อให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ของ บิ๊กตู่ ณรงค์ และพงศ์พร ตั้งข้อหาให้เจ้าคุณเอื้อนอีกนับร้อยนับพันคดี มันก็ไม่มีผลอะไรต่อเจ้าคุณเอื้อน เพราะผู้คนเขาเห็นว่าไม่เป็นธรรม อยากจะทำอะไรก็เชิญ ยิ่งขังก็ยิ่งขลัง นั่งสมาธิในคุกให้ชาวโลกดู เจ้าคุณเอื้อนวันนี้ไม่มีอะไรจะเสียอีกแล้ว แม้แต่ยศถาบรรดาศักดิ์หรือตำแหน่งแห่งหนต่างๆ ที่ถูกยึดไป เพียงแค่ประกาศ "ไม่เอาอะไรทั้งสิ้น" ก็จะกลายเป็น..อรหันต์ ในทันที
แล้วทีนี้ล่ะ ใครบ้าง จะหนาว ก็เดากันเอาเอง
ที่มา : สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ : 7 ตุลาคม 2563 |
WWW.ALITTLEBUDDHA.COM WAT THAI LAS VEGAS 2920 MCLEOD DRIVE LAS VEGAS NEVADA 89121 U.S.A. PHONE. 702-384-2264 |