ตัดงบสำนักพุทธ 177 ล้าน
นำไปโปะเงินเยียวยาโควิด-19 ของรัฐบาล สำนักพุทธ รณรงค์วัดทั่วประเทศ ปลูกผักกิน
เราเข้าสู่ยุคใหม่ NEW NORMAL แล้ว !
อา..จะให้อนุโมทนาสาธุว่าอย่างไรดีล่ะ นึกคาถาไม่ออกเลย เมื่อเจอไอเดียอันเลอเริ่ดของ "ณรงค์ ทรงอารมณ์" ภายใต้ที่ปรึกษาฝ่ายพระพุทธศาสนา ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ชื่อ "พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์" รณรงค์ให้ข้าราชการสำนักพุทธฯ และพระทั่วประเทศ หันไปปลูกผักปลูกหญ้า ใช้ชีวิตแบบเศรษฐกิจพอเพียง ปรับเนื้อปรับตัวรับสถานการณ์ใหม่ ที่เรียกว่า New Normal
คุณณรงค์ นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ผอ.พศ. เมื่อวิกฤติโควิดเริ่มต้นนั้น ก็รับบท "เสือรงค์" สั่งลูกสมุน "ล้วงย่ามพระ" เอาเงินเดือนพระสังฆาธิการไปเน็ต "รูปละ 2 เดือน" พอพระโวยวายว่าไม่ได้ยินยอม ก็หันไปล้วงผ่านมหาเถรสมาคมจากกองทุน "วัดช่วยวัด" กวาดไปได้ถึง 24 ล้าน แถมยังเอาเงินพระสังฆราชไปซื้อหน้ากากแจกอีก 2 ล้าน ก็นึกว่าจะหมดจะสิ้นเคราะห์กรรมกับณรงค์แล้ว ที่ไหนได้ วันนี้ เปิดบัญชีงบประมาณของรัฐบาลผ่านรัฐสภา ปรากฏว่า สำนักพุทธฯ ถูกตัดงบไปถึง 177 ล้าน เป็นงบประมาณทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาทั้งสิ้น
ชัดว่า รัฐบาลประยุทธ นอกจากจะไม่ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญก้าวหน้าแล้ว ยังตัดกำลังลงทุกวิถีทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม งบบูรณะปฏิสังขรณ์วัดก็ตัดออกอย่างถาวร วันก่อนหันมาควักย่ามพระสังฆราชและพระสังฆาธิการทั่วประเทศ ไปสร้างผลงานเยียวยาโควิด วันนี้แอบตัดงบส่วนกลางไปอีก 177 ล้าน ไม่ให้ไม่พอ ยังยึด ยังตัด ทุกวิถีทาง มันน่าเศร้าใจไหม ชาวพุทธไทยทั่วประเทศ
นอกจากจะไม่มีหัวหาเงินแล้ว รัฐบาลประยุทธ์ยังให้สำนักพุทธฯ ออกนโยบายใหม่ "ให้วัดทั่วประเทศไทยหันไปปลุกผักสวนครัว เพื่อเอาตัวรอดในสภาวะวิกฤติ" คือว่าอย่าหวังพึ่งรัฐบาลเลย รัฐบาลก็แทบจะไปไม่รอดเหมือนกัน ไม่งั้นไม่หันมาล้วงย่ามพระหรอก
ฟังดูก็ดูดีนะ เหมือนหวังดี ปลอบอกปลอบใจ ให้กำลังใจ แต่ในฐานะเป็นผู้นำของประชาชนทั่วประเทศ อาสาเข้ามาบริหารประเทศชาติพระศาสนา ถ้าว่ามีความคิดแค่นี้ก็ถือว่ากระจอกมาก เด็กอนุบาลก็ทำได้ ไม่ต้องมีพวกคุณ ประเทศชาติอาจจะไปได้ดีกว่านี้
ดังนั้น จึงขอเจริญพรบอกไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และ นายณรงค์ ทรงอารมณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติว่า ถ้าจะบริหารประเทศชาติศาสนาเยี่ยงนี้ ไม่ต้องมีพวกท่านก็ได้ ประเทศไทยไม่ไร้เท่าใบพุทรา กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี เชิญพวกท่านลาออกไปซะ อย่าอยู่ให้ประเทศชาติศาสนาล้าหลังอีกต่อไปเลย
ปล. นี่ไม่ได้เกลียดชังอะไรในรัฐบาล แต่ให้โอกาสทำงานเสมอมา ทำดีก็อนุโมทนา ทำแย่ก็ต้องว่ากล่าวติติง หวังจะให้ได้สติ ทุกรัฐบาล และผู้บริหารสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
สำนักพุทธฯเข้าสู่ยุคปลูกผักยังชีพ
พวกเรา..มาถึงจุดนี้ได้อย่างไร ?
โอ้หนอ พ่อแม่สู้อุตส่าห์ส่งเรียน หวังจะให้ได้ดี กินเบี้ยหวัดเงินเดือน มีชีวิตที่มั่นคง แต่วันนี้ ต้องกลับไปปลูกผักกินเหมือนอยู่บ้านนอก อยากจะบอกว่า..คิดผิดหรือเปล่าเรา ?
ไม่เด่นไม่ดัง จะไม่หันหลังกลับไป ทุกวันคืนนอนร้องไห้ อีกเมื่อไหร่จะโชคดี
WE WILL SURVIVE เปิดรายชื่อองค์กรรัฐและองค์กรอิสระ ถูกและไม่ถูกตัดงบไปโปะโควิด-19 ของรัฐบาลสภาผู้แทนราษฎร เตรียมเปิดประชุมสมัยสามัญปีที่ 2 โดยจะบรรจุวาระการพิจารณา "ร่าง พ.ร.บ.โอนงบ ปี 63" วงเงิน 8.8 หมื่นล้าน "ส.ส.-ส.ว." ไม่ถูกหั่นงบ ช่วยโควิด-19หลังจากที่ประชุม ครม. เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 จากเดิมกำหนดกรอบวงเงินไว้ 100,395 ล้านบาท ลดลงเหลือ 88,452 ล้านบาท หรือลดลง 11,942 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สภาผู้แทนราษฎร ได้บรรจุ "ร่าง พ.ร.บ.โอนงบ ปี 63" ไว้ในระเบียบวาระ ซึ่งต่อจากการพิจารณา 4 พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ทั้งนี้ สภาผู้แทนราษฎร จะมีการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ ปี 2563 ในวาระที่ 1, 2 และ 3 ในวันที่ 28 พฤษภาคม จากนั้นจะเสนอวุฒิสภาเพื่อพิจารณา และนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมาย คาดว่าจะประกาศบังคับใช้ได้ภายในกลางเดือนมิถุนายน
สำหรับ ร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณรายจ่ายฉบับดังกล่าว จะตั้งไว้เป็นงบประมาณรายจ่ายงบกลางรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ร้องขอให้หน่วยงานโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จัดสรรคืนเพื่อนำไปใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหา เยียวยา ผู้ไดัรับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หลังจากที่การแก้ปัญหาไวรัสโคโรนา และการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และสาธารณภัยที่ผ่านมาทำให้งบกลางที่จัดสรรไว้ ตาม พ.ร.บ.งบฯ 63 จำนวน 9.6 หมื่นล้านบาท นั้นไม่เพียงพอ
ทั้งนี้ การจัดสรรเงินคืนของแต่ละหน่วยงานนั้นมีรายละเอียดที่น่าสนใจ คือ รายการงบประมาณของหน่วยงานและแผนงานที่ส่งคืนรัฐบาล ครบทั้งจำนวน 20 กระทรวง โดยเรียงตามลำดับกระทรวงที่โอนคืนงบประมาณ ได้แก่
1. กระทรวงกลาโหม จำนวน 17,700 ล้านบาท 2. กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 4,746 ล้านบาท 3. กระทรวงคมนาคม จำนวน 3,427 ล้านบาท 4. กระทรวงมหาดไทย จำนวน 2,957 ล้านบาท 5. กระทรวงสาธารณสุข จำนวน 1,356 ล้านบาท 6. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม จำนวน 1,254 ล้านบาท 7.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวน 1,153 ล้านบาท 8.สำนักนายรัฐมนตรี จำนวน 1,069 ล้านบาท 9.กระทรวงการคลัง จำนวน 778 ล้านบาท
10. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จำนวน 641 ล้านบาท 11.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 571 ล้านบาท 12.กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวม 506 ล้านบาท 13.กระทรวงยุติธรรม จำนวน 384 ล้านบาท 14.กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 277 ล้านบาท 15.กระทรวงวัฒนธรรม จำนวน 203 ล้านบาท 16.กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จำนวน 192 ล้านบาท 17. กระทรวงอุตสาหกรรม จำนวน 139 ล้านบาท 18. กระทรวงพลังงาน จำนวน 37 ล้านบาท 19.กระทรวงแรงงาน จำนวน 22 ล้านบาท 20. กระทรวงการต่างประเทศ จำนวน 1.5 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนั้นยังมีการโอนงบประมาณคือของหน่วยงานอื่นๆ ได้แก่ ส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง รวม 775 ล้านบาท อาทิ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 544 ล้านบาท ในแผนงานยุทธศาสตร์พัฒนาบริการประชาชนและการพัฒนาประสิทธิภาพของรัฐ-แผนยุทธศาสตร์รักษาความสงบภายในประเทศ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จำนวน 177 ล้านบาท
สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง จำนวน 8.8 ล้านบาท
งบของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด จำนวนรวม 2,537 ล้านบาท
งบจากแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้ง 12 ด้าน โอนงบคืนรวมกันทั้งสิ้น 13,047 ล้านบาท
และแผนงานบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ จำนวน 35,303 ล้านบาท
ได้ตัดส่วนของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะออกทั้งหมด
นอกจากนั้นยังพบว่า ในร่าง พ.ร.บ.โอนงบประมาณฯ ไม่ปรากฏรายการโอนงบประมาณคืนงบกลางของหลายหน่วยงาน อาทิ รัฐวิสาหกิจ 21 แห่ง, ศาล, องค์กรอิสระ, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 76 จังหวัด, งบบุคลากรของทุกหน่วยงาน และ หน่วยงานของรัฐสภา ทั้งฝั่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา และ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
สำหรับงบประมาณของรัฐสภานั้น ก่อนหน้านั้นมีข่าวจากคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา รับทราบการโอนงบคืน จำนวน 93 ล้านบาท เป็นส่วนของงบศึกษาดูงานต่างประเทศ และงบประมาณของข้าราชการแลกเปลี่ยน ขณะที่สำนักงานเลขาธิการสภาฯ แจ้งว่าได้คืนงบให้รัฐบาล 336 ล้านบาท โดยเป็นงบศึกษาดูงานของกรรมาธิการ (กมธ.) และเบี้ยประชุมของ กมธ.ฯ เพื่อให้รัฐบาลนำไปแก้ปัญหาไวรัสโควิด-19
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ : 24 พฤษภาคม 2563 |
WWW.ALITTLEBUDDHA.COM WAT THAI LAS VEGAS 2920 MCLEOD DRIVE LAS VEGAS NEVADA 89121 U.S.A. PHONE. 702-384-2264 |