เจ้าคุณเอื้อนโดนคุกอีก 8 เดือน !
ข้อหาสนับสนุนเจ้าหน้าที่ พศ. ทุจริต
แต่ให้รอลงอาญาไว้ 1
ปี
แปลว่าอะไรฮะ ?
ก็แปลว่า นับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป พระสังฆาธิการไทยไม่ว่าระดับไหน
จะทำเรื่องเพื่อของบประมาณบูรณะปฏิสังขรณ์วัด หรือโครงการอื่นใด
ไม่ได้โดยเด็ดขาด เพราะขืนพลาด มีเจ้าหน้าที่ทำการทุจริตไปแม้แต่บาทหนึ่ง
ถึงพระจะไม่ทราบ ไม่ได้รับผลประโยชน์ ไม่มีผลตอบแทน ฯลฯ ก็ตาม
ศาลก็ยังสั่งลงโทษ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ตำตาว่า จำเลยไม่มีเจตนาโกง
แล้วจะไปร่วมมือเพื่ออะไร เนื้อไม่ได้กิน
หนังไม่ได้รองนั่ง แต่กลับถูกรัฐบาลเอากระดูกมาแขวนคอ
ตราหน้าว่าเป็นคนเลว ทั้งๆ ที่ทำคุณงามความดีเพื่อพระศาสนาแท้ๆ
แบบนี้ก็น่าจะลาออกจากตำแหน่งเสียให้หมด บวชเพื่อพ้นทุกข์ดีกว่า
อย่าไปสนองงานคณะสงฆ์องค์กรการเมืองในผ้าเหลืองอีกต่อไปเลย
หรืออยากตายในคุกก็ตามแต่นะ ท่านเจ้าคุณทั้งหลายนะ

ศาลอาญาคดีทุจริตฯ พิพากษาจำคุก
8
เดือน ปรับ
8,000
บาท อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา สนับสนุน "พนม ศรศิลป์" อดีต ผอ.พศ.
จัดสรรงบโรงเรียนพระปริยัติธรรมมิชอบ แต่โทษจำคุกรอลงอาญาไว้
1
ปี ส่วน "พนม" โดนคุก
12
เดือน ไม่รอลงอาญา
วันนี้ (5
มี.ค.) ที่ห้องพิจารณา
703
ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.นครไชยศรี เวลา
10.00
น.
ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีทุจริตการจัดสรรเงินงบประมาณ
สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สำนวนที่
3
คดีหมายเลขดำที่ อท.254/2561
ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต
1
เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง
นายพนม ศรศิลป์ อายุ
61
ปี อดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.)
นายบุญเลิศ โสภา อายุ
54
ปี อดีต ผอ.กองพุทธศาสนศึกษา พศจ.ลำปาง
นายแก้ว ชิดตะขบ อายุ
54
ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา
นางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร อายุ
51
ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ กองพุทธศาสนศึกษา
พระพรหมดิลก หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อายุ
75
ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) เจ้าคณะกรุงเทพมหานคร
เป็นจำเลยที่
1-5
ในความผิดฐาน เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ,
ทำ,
จัดการหรือรักษาทรัพย์ใด
ร่วมกันเบียดบังทรัพย์นั้นเป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่น โดยทุจริต
หรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์สินนั้นเสีย,
เป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติ
หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต,
เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ทำเอกสารฯ ทำการรับรองหลักฐานเป็นเท็จ,
เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิดดังกล่าว ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
147, 157, 162
ประกอบมาตรา
83, 86
กรณีกล่าวหาทุจริตการจัดสรรงบในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม
แผนกสามัญศึกษาประจำปีงบประมาณ
2557
วงเงิน
5
ล้านบาท ระหว่างวันที่
26
พ.ย.
2546 -
15
ส.ค.
2557
โดยอัยการโจทก์ยื่นฟ้อง เมื่อวันที่
22
ต.ค.
61
พร้อมระบุคำขอท้ายฟ้อง ขอให้ศาลสั่งจำเลยทั้งห้า ร่วมกับ นายนพรัตน์
เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. (ตัวยังหลบหนีคดี) ชดใช้เงิน
5
ล้านบาท คืนให้สำนักงาน พศ.
และให้นับโทษอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยาในคดีฟอกเงิน
หมายเลขดำ อท.196/2561
ด้วย
โดย
พระพรหมดิลก หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา
ได้ประกันตัวไปด้วยหลักทรัพย์
2
ล้านบาท ก็เดินทางมาศาล ซึ่งสวมชุดกางเกงขายาว เสื้อแขนสั้นสีขาว
มีกลุ่มพระลูกศิษย์นับ
10
รูป
และฆราวาสกว่า
10
คน
มาร่วมให้กำลังใจฟังคำพิพากษา
ส่วน นายพนม ศรศิลป์ อดีต ผอ.พศ. จำเลยที่
1
และกลุ่มลูกน้องในสำนักงาน พศ. จำเลยที่
2, 3, 4
ทั้งในส่วนที่ศาลไม่ให้ประกันตัว และไม่มีหลักทรัพย์เพียงพอจะยื่นประกันตัว
ปัจจุบันถูกคุมขังในเรือนจำและทัณฑสถานหญิงกลาง ศาลได้เบิกตัวจำเลยที่
1-4
มาศาลพร้อมฟังคำพิพากษา
ขณะที่ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์-จำเลย ที่ได้ทำการไต่สวนแล้ว เห็นว่า
จำเลยที่
1-4
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
157
ประกอบมาตรา
83
ให้จำคุกคนละ
1
ปี
6
เดือน
ส่วนอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา จำเลยที่
5
มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำผิด มาตรา
157
ประกอบมาตรา
86
จำคุก
1
ปี และปรับ
12,000
บาท
โดยจำเลยที่
1, 3, 4,
5
ให้การเป็นประโยชน์ในชั้นพิจารณาคดีอยู่บ้างเห็นควรลดโทษให้
1
ใน
3
คงจำคุกจำเลยที่
1, 3, 4
คนละ
12
เดือน
สำหรับจำเลยที่
5
คงจำคุก
8
เดือน และปรับ
8,000
บาท
โดยส่วนของอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา จำเลยที่
5
นั้น ศาลเห็นว่า
เคยประกอบคุณงามความดีในด้านพุทธศาสนา จบการศึกษาระดับปริญญาเอก
จากมหาวิทยาลัยพาราณสี ประเทศอินเดีย ทะนุบํารุงการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา
อีกทั้งไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน
โทษจำคุกนั้นจึงให้รอการลงโทษ (รอลงอาญา) ไว้มีกำหนด
1
ปี
ส่วนจำเลยที่
2
ให้การรับสารภาพในชั้นพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกไว้เป็นเวลา
9
เดือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า
สำหรับอดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยาที่ถูกกล่าวหาคดีร่วมกันฟอกเงิน
5
ล้านบาท จากการทุจริตงบประมาณ พศ.
ในส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ
ในคดีหมายเลขดำที่ อท.196/2561
นั้น ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลางได้มีคำพิพากษาลงโทษไปแล้วเมื่อวันที่
16
พ.ค.
62
ให้จำคุก
2
กระทง รวม
6
ปี โดยไม่รอลงอาญา
ซึ่งปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีทุจริตจัดสรรเงินงบประมาณสำนักงาน พศ.
สำนวนแรก ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ กลางตัดสินนั้น คือ คดีหมายเลขดำที่ อท.253/2561
กรณีเอาเงินงบประมาณของ พศ. ไปเป็นประโยชน์ของตน
โดยใช้วัดเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดรับโอนเงินงบประมาณ
ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต
3
เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายพนม อดีต ผอ.พศ.,
นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ อดีต ผอ.ส่วนบูรณะพัฒนาวัดและการศาสนสงเคราะห์
กองพุทธศาสนสถาน พศ.,
นายเจษฎา วงศ์เมฆ ฆราวาสติดต่อหาวัด,
นายชรินทร์
มิ่งขวัญ ฆราวาส ทำหน้าที่ติดต่อหาวัด จำเลยที่
1-4
ที่ให้จำคุกตั้งแต่
1
ปี
8
เดือน -
20
ปี
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
147
กับให้ร่วมชดใช้เงินจำนวน
12
ล้านบาทด้วย
สำนวนที่
2
ร่วมอนุมัติเงินอุดหนุนที่อนุมัติโครงการอบรมคุณธรรมจริยธรรม
37
ล้านบาท และโครงการศูนย์กลางเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา จำนวน
32.5
ล้านบาท ประจำปีงบประมาณ
2559
ให้วัดสระเกศราชวรมหาวิหารเพียงแห่งเดียวโดยมิชอบ คดีหมายเลขดำที่ อท.251/2561
ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต
2
ยื่นฟ้อง นายพนม อดีต ผอ.พศ.,
นายชยพล พงษ์สีดา อายุ
64
ปี
อดีตรอง ผอ.สำนักงาน พศ.,
นายณรงค์เดช ชัยเนตร อดีต ผอ.กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา,
นายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี อายุ
50
ปี อดีตนักวิชาการศาสนาชำนาญการ
กองส่งเสริมงานเผยแผ่พระพุทธศาสนา,
พระพรหมสิทธิ ธงชัย สุขโข หรือนายธงชัย สุขโข อายุ
64
ปี อดีตพระราชาคณะเจ้าคณะรอง,
อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร,
อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม จำเลยที่
1-5
จำคุกตั้งแต่
3
ปี
-
3
ปี
18
เดือน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา
157
โดยส่วนของอดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ศาลให้ปรับ
27,000
บาท ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา
2
ปี
ซึ่งทั้งสองคดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์
สำหรับกรณีกล่าวหาร่วมกันฟอกเงินนั้น ที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ
กลางตัดสินแล้วก็มี
2
สำนวน ประกอบด้วย
1.
คดีหมายเลขดำที่ อท.38/2561
กล่าวหาฟอกเงินจากการที่ นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์
อายุ
61
ปี อดีต ผอ.สำนักงาน พศ. (ตัวยังหลบหนี)
ทุจริตจัดสรรงบประมาณ
28
ล้านบาท ให้วัด
12
แห่งในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์,
ตาก,
นครสวรรค์,
ชุมพร โดยมิชอบ ซึ่งศาลลงโทษจำคุกพระครูกิตติ พัชรคุณ หรือนายสมเกียรติ
ขันทอง อายุ
56
ปี
อดีตเจ้าคณะอำเภอชนแดน จ.เพชรบูรณ์/อดีตเจ้าอาวาสวัดลาดแค
รวม
13
กระทง เป็นเวลา
26
ปี
คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ โดยจำเลยไม่ได้ประกันตัว
2.
คดีหมายเลขดำที่ อท.196/2561
กล่าวหาฟอกเงินจำนวน
5
ล้านบาท
ในงบส่วนอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั้งที่ไม่มีการดำเนินโครงการ
โดยเจ้าอาวาสวัดสามพระยา นำงบที่ได้มานั้นไปใช้ก่อสร้างอาคารร่มธรรมแทน
ทั้งที่ไม่มีสิทธิได้รับเงินนั้นมาตั้งแต่แรก ศาลลงโทษ
2
กระทง พระพรหมดิลก (เอื้อน หาสธมฺโม) หรือนายเอื้อน กลิ่นสาลี อายุ
75
ปี
อดีตเจ้าอาวาสวัดสามพระยา และเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร จำคุก
6
ปี
และพระอรรถกิจโสภณ หรือนายสมทรง อรรถกฤษณ อายุ
53
ปี
อดีตเลขาฯ เจ้าคณะกรุงเทพ จำคุก
3
ปี
คดีอยู่ระหว่างอุทธรณ์ ทั้งสองได้ประกันตัวคนละ
2
ล้านบาท
ที่มา
: ผู้จัดการ
: 5
มีนาคม 2563 |