ตั้งพงศ์พรเป็นกรรมการบอร์ดพระปริยัติธรรม

 

ผลงานนัมเบอร์ #2 ของมหาเถรสมาคม

 

 

 

อา..แสนสุขสม นั่งชมวิหค อยากเป็นนกเหลือเกิน ฯลฯ ถ้าจะมองไปทั่วฟ้าเมืองไทยแล้ว คนเก่ง คนดี คงมีไม่มาก หนึ่งในนั้นต้องยกให้ "ท่านพงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์" อดีตเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนจากกรมคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ และอดีต ผอ.พศ. ผู้ทำคดีเงินทอนวัด เป็นหนึ่งในบรรดาของยอดคนดังกล่าว หาไม่แล้ว "มหาเถรสมาคม" อันเป็นองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย คงไม่ไปคว้าเอาตัวกลับมาเป็นกรรมการบอร์ดพระปริยัติธรรม อีกครั้ง ทั้งๆ ที่เกษียณอายุราชการไปแล้ว เป็นอาหารก็ต้องเรียกว่า "บูด" เป็นน้ำดื่มก็ต้องเรียกว่า "เน่า" แต่พงศ์พรยังไม่บูดไม่เน่า มหาเถรสมาคมจึงนิยมเอามากินมาใช้ไม่กลัวท้องเสีย

แต่อย่าลืมว่า ฯพณฯ พงศ์พร ท่านเป็น "บุคคลพิเศษ" ที่ทางรัฐบาลทหาร คสช. ยังไม่กล้าแตะ แรกนั้นสั่งย้ายไปเป็นจเรภาคใต้ แต่สุดท้ายพงศ์พรก็ออกฤทธิ์ เล่นเอาเนติบริกร "วิษณุ เครืองาม" กระเด็นกระดอน หมดอำนาจคุมสำนักพุทธฯ แถมด้วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกชุดหลังๆ ต้องฟังพงศ์พรเป็นหลัก ไม่งั้นก็มีสิทธิ์โดนเด้ง เหมือน "ออมสิน ชีวะพฤกษ์" รมต.สำนักนายกฯ เพื่อนสนิทบิ๊กตู่ ที่โดนฤทธิ์พงศ์พรกระแทกซะกระเด็น จุกจนพูดไม่ออกมาจนบัดนี้

 

 

เมื่อพงศ์พรเกษียณอายุราชการลงไปในเดือนตุลา ปี 2562 บิ๊กตู่ก็ยังต้องอุ้มพงศ์พรเอาไว้ในตำแหน่งพิเศษ "ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีด้านการพระพุทธศาสนา" ให้มีอำนาจ "ครอบจักรวาล" จะเรียกว่าเป็น "นายกฯเล็ก" ก็คงว่าได้ ไม่เชื่อก็ไปอ่านคำสั่งแต่งตั้งดู จะรู้ว่าไผเป็นไผ

 

 

และหลังจากพงศ์พรเกษียนไปแล้วนานหลายเดือน ก็ยังไม่ปรากฏว่าทางรัฐบาลจะตั้งให้ใครมาดำรงตำแหน่ง "ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" แทนพงศ์พร ให้แต่ "ณรงค์ ทรงอารมณ์" เป็นรักษาการมานานเนิ่น ทั้งๆ ที่ก็มีข่าวว่า จะมีการตั้ง "ณรงค์ ทรงอารมณ์" เป็น ผอ.พศ. เต็มตัว เพราะตอนนั้นมีการเด้ง "สมเกียรติ ธงศรี" รอง ผอ.พศ. อันดับ 1 อาวุโสกว่าณรงค์ ให้ไปเป็นผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายก เพื่อเคลียร์ทางให้ "ณรงค์" เด็กปั้นของพงศ์พร ขึ้นนั่งเก้าอี้ ผอ.พศ. ได้อย่างเต็มตัว

 

 

แต่จนแล้วจนเล่า จนกระทั่งบัดนี้ ผ่านวัน ผ่านเดือน ผ่านปี นานถึง 3 เดือนแล้ว ยังไม่มีการตั้ง "ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ" กันเสียที มีแต่การแต่งตั้ง "พงศ์พร" และ..พงศ์พร ถึงสองครั้ง 2 ครา

 

 

ครั้งที่  1 วันที่ 1 ตุลาคม 2562 นายกรัฐมนตรี ตั้งให้พงศ์พร เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในตำแหน่งพิเศษ "ด้านกิจการพระพุทธศาสนา" มีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนและหาข้อมูลวัดวาอารามและพระสงฆ์สามเณรได้ครอบจักรวาล

 

 

ครั้งที่ 2 วันที่ 8 มกราคม 2563 มหาเถรสมาคม ตั้งให้พงศ์พร เป็นกรรมการบอร์ดพระปริยัติธรรม มีอำนาจในการออกนโยบายการศึกษาของพระพุทธศาสนา

 

 

จึงทำให้เห็นได้หลายประเด็นว่า

 

 

 

1. กรณีที่รัฐบาลไม่ยอมตั้ง ผอ.พศ. ตัวจริงเสียทีนั้น ถ้าไม่เพราะในสำนักพุทธฯ ไม่มีบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถแล้ว ก็คงไม่แคล้วด้วยเหตุผลว่า "เพราะต้องการให้พงศ์พรควบคุมสำนักพุทธฯอยู่ต่อไป" ดังนั้น ใครจะอยู่ใครจะไปก็ชั่ง แต่พงศ์พรยังต้องอยู่ ยังไปไหนไม่ได้ พงศ์พรถ้าไม่เป็นระดับเทพก็ต้องเป็นสัมภเวสีไม่มีที่ไป สงสารก็แต่ "ณรงค์ ทรงอารมณ์" ต้องกลายเป็นไก่รองบ่อนให้พงศ์พรจิกตีไปจนตาย เป็นชายก็เสียชาติเกิด ต้องเป็นรอง ผอ.พศ. ไปตลอดชีวิต สู้สมเกียรติ ธงศรี ไม่ได้ เอาเงินแทนยศ ซึ่งเท่ห์แต่กินไม่ได้ ท่องคาถา "กำขี้ดีกว่ากำตด" ยอมลุกไปอยู่สำนักนายกฯ แม้ไม่ได้เป็น ผอ.พศ. แต่ก็ยังได้บำเหน็จบำนาญเป็นการทดแทน เหมือนนายพลยอมไปกิน "อัตราจอมพล" แทนการเป็นผู้บัญชาการเหล่าทัพ ไม่ได้อย่างก็ต้องเอาอย่าง แม่บ้านถึงจะพอใจ นี่ไงไม่รู้ใครโง่กว่าใคร ถามคุณณรงค์ว่า นั่งกำตดตัวเองมานาน 3 เดือนแล้ว ไม่เหม็นเบื่อบ้างหรือไร หรือพอใจจะกินน้ำใต้ศอกของพงศ์พรไปอย่างนี้แหละ

 

 

2. กรณีที่มหาเถรสมาคมตั้ง "พงศ์พร" ให้เป็นกรรมการบอร์ดพระปริยัติธรรมในวันนี้ ชี้ว่า แม้แต่มหาเถรสมาคมเองก็ยัง "มีใบสั่ง" จากมือที่มองไม่เห็น เพราะมองไม่ออกว่า "พงศ์พร" มีคุณสมบัติอะไรในการเป็นบอร์ดพระปริยัติธรรม ซึ่งต้องเป็นผู้รู้ระดับศาสตราจารย์ เพราะต้องคุมนโยบายการศึกษาสงฆ์ ไม่ต้องเอาพระไตรปิฎกมาวัด เอาแค่รายชื่อกรรมการบอร์ดด้วยกัน ก็พอแล้ว หรือว่าการศึกษาพระปริยัติธรรมในสมัยสังฆราชอัมพรนั้น ต้องมี "มือปราบ" ด้วย หรืออาจจะเข้าทำนองว่า "มีอำนาจ ก็สามารถจะเป็นผู้รู้ได้" เพราะใครๆ ก็กลัว

 

 

3. มหาเถรสมาคมผ่านมติ "ตั้งเจ้าคณะภาค" ชุดแรกไป ได้รับเสียงโห่ไล่ทั่วเมือง ก็เป็นเรื่องหนักหนาสาหัสแล้ว แต่วันนี้ยังทำฮาราคีรีตัวเองด้วยการ "ตั้งพงศ์พร" มานั่งบอร์ดการศึกษาสงฆ์ ก็ยิ่งเข้าป่าไปใหญ่ เพราะมองยังไงก็ไม่เห็นว่าพงศ์พรจะมีความรู้ความสามารถอะไรในด้านการศึกษาพระปริยัติธรรม นี่ไม่ได้ดูถูกพงศ์พร แต่ดูจากประวัติการศึกษาและการทำงานมาตลอดชีวิตของพงศ์พรนั่นเอง นั่นแสดงให้เห็นว่า "มหาเถรสมาคมชุดนี้มีปัญหา" ทำงานออกมาแค่ 2 ครั้ง ก็ได้เรื่อง ได้ใจพระเณรไปทั่วประเทศ แน่จริงลงสมัครรับเลือกตั้งซีครับ "ท่านกรรมการ มส." ว่าจะได้ที่หนึ่งหรือที่โหล่

 

 

 

 

พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์

 

ชีวิตใหม่ จาก..มือปราบ สู่..มือการศึกษา สนุกเป็นบ้า

 

 

 

ตั้ง "พงศ์พร" กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดพระปริยัติธรรม

 

ที่ประชุมมหาเถรสมาคม มีมติ ตั้ง "พงศ์พร" กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิบอร์ดพระปริยัติธรรม

 

เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้ตรวจราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในฐานะรองโฆษกพศ. แถลงผลการประชุมมหาเถรสมาคม(มส.) ครั้งที่ 1/2563 ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) พศ. พุทธมณฑล จ.นครปฐม ว่า ที่ประชุม มส. มีมติแต่งตั้ง พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านการพระพุทธศาสนา และอดีต ผอ.พศ. ให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แทนนายณรงค์ ทรงอารมณ์ รอง ผอ.พศ. รักษาราชการแทน ผอ.พศ. ที่ขอลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว เนื่องจากนายณรงค์ ดำรงตำแหน่งรักษาราชการแทน ผอ.พศ. ซึ่งมีตำแหน่งเป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรมโดยตำแหน่งอยู่แล้ว

ดังนั้น จึงจะทำให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม ประกอบด้วย

1. พระพรหมบัณฑิต (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) วัดประยุรวงศาวาส

2. พระเทพมหาเจติยาจารย์ (ชัยวัฒน์ ปญฺญาสิริ) วัดพระปฐมเจดีย์

3. พระเทพเวที (พล อาภากโร) วัดสังเวชวิศยาราม

4. นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา

5. ศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ

6. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ 

 

 

 

ที่มา : เดลินิวส์ : 8 มกราคม 2563

 

 

 

 

WWW.ALITTLEBUDDHA.COM WAT THAI LAS VEGAS 2920 MCLEOD DRIVE LAS VEGAS NEVADA 89121  U.S.A.  PHONE. 702-384-2264